โลกเปลี่ยน คนเปลี่ยน

ระบบ Micro Processor ที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็วตามกฎของ Moore Law ที่ว่า ทุกๆ 2 ปีระบบประมวลผลจะเร็วขึ้น 1 เท่า และ ราคาลดลง 1 เท่า ทำให้ 40-50 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ระบบประมวลผลนี้ไปอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่างมากยิ่งขึ้น ทำให้การเดิมที่เราจะซื้ออะไร ก็เพราะมีขายแค่นั้น เนื่องจากโรงงานผลิตเป็นผู้กำหนดตลาดนั้นเอง หลังจากนั้นกลายมาเป็นผู้ออกแบบเป็นผู้กำหนดตลาด เช่น ปีหน้า จะแต่งตัวกันอย่างไร นั้นก็คือ ผลที่นักออกแบบเป็นผู้กำหนด Trend การแต่งตัวนั้นเอง 

และปัจจุบันกลายมาเป็นยุคที่ ลูกค้า เป็นศูนย์กลางเป็นผู้กำหนดตลาดว่า จะไปในทิศทางไหน ทำให้ผู้ออกแบบ และ โรงงานผลิต ต้องผลิตตามความต้องการของตลาด 

อ้าวแล้วเหตุการณ์เหล่านี้จะมีผลอะไรกับสถาปนิก วิศวกร อย่างไร จากที่พฤติกรรมของผู้บริโภค หรือ ลูกค้าที่เปลี่ยนไป เนื่องจากต้องการสินค้าราคาถูก รักสุขภาพ รักษ์โลก มากยิ่งขึ้น และสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลได้ง่าย ทำให้มีโอกาสและตัดสินใจตามความต้องการของตัวเอง ทำให้โรงงานผลิต และนักออกแบบที่เคยทำแบบเดิมๆ ต่อไปไม่ได้ สถาปนิกมีแต่ออกแบบรูปทรงแบบสี่เหลี่ยมๆ เอาห้องรับแขกไว้ด้านหน้า ครัวไว้ด้านหลังอาคาร ออกแบบรูปทรงจากการ copy and paste แบบเดิมๆ จะหายไปในที่สุด จากสถาปนิก 100 คน ต้องออกแบบบ้าน 100 หลัง กลายเป็น สถาปนิกเก่งๆ 1-2 คน ออกแบบบ้านเป็น 100 หลัง ทำเป็นหมู่บ้าน เป็นบ้านสำเร็จรูป สถาปนิกที่ทำแบบแต่แบบเดิมๆ ก็จะค่อยๆหายไปในที่สุด  วิศวกรผู้ออกแบบ ผู้รับเหมาก่อสร้างอาคาร ถนน อะไรพวกนี้ก็จะเปลี่ยนแปลงไป การก่อสร้างใช้เวลานานๆ ทำคุณภาพได้ไม่ดีเท่าต่างประเทศ ต้นทุนที่แพงกว่า เหล่านี้ ก็เช่นเดียวกัน

เทคโนโลยีอะไรละที่จะทำให้เราทันกับการเปลี่ยนแปลง ? การที่เราบอกว่า ทำมาเยอะ ประสบการณ์เพียบอาจใช้ไม่ได้ในยุค 4.0 แล้วนะ