BIM -> BAM -> BOOM

BIM  -> BAM -> BOOM

ทูพลัส ซอฟท์ฯ เป็นองค์กรที่พัฒนาการเชื่อมโยงข้อมูล (Integrated) ระหว่างการทำงานแต่ละหมวด เช่น การออกแบบสถาปัตยกรรม วิศวกรรมโครงสร้าง วิศวกรรมงานระบบอาคาร การประมาณราคาก่อสร้าง การทำภาพ 3 มิติ  การวางแผนงานก่อสร้าง การบริหารเอกสารงานก่อสร้างไปจนถึง การบริหารสิ่งอำนวยความสะดวกองค์กร (Facilities Management) มากว่า 23 ปี ตั้งแต่การเชื่อมโยงข้อมูลผ่าน การเป็นการเชื่อมโยงระหว่างโปรแกรมยักษ์ใหญ่กับโปรแกรมยักษ์ใหญ่ด้วยกัน โดยการ Import และ Export  โดยทูพลัส ซอฟท์ฯเองมุ่งให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานครบวงจรการงานอาคาร (The Complete Building Life Cycle) 

เมื่อ 15 ปีที่แล้ว ทูพลัส ซอฟท์ฯได้เข้าสัมมนา BIM (Building Information Modeling) กับบริษัทผู้พัฒนาโปรแกรมในยุโรป คือ Graphisoft , Data Design Systems,RoboBAT (ปัจจุบันถูกซื้อโดย Autodesk,Inc และเป็น Autodesk Robot Structural Analysis และ Revit Structure) และ Nameschek ทำให้รู้ว่าการเชื่อมโยงข้อมูลแบบครบวงจรการใช้งานอาคารจะเริ่มมีผลอนาคต การเชื่อมโยงผ่านระบบ BIM (Building Information Modeling) เป็นแนวความคิดการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างทีมทำงานภายในองค์กร แต่การเชื่อมโยงข้อมูลระหว่าองค์กร ต้องเชื่อมโยงผ่านระบบ IFC เป็นไฟล์มาตรฐานกลางสำหรับโปรแกรมระบบ BIM 

การเติบโตของ BIM จะเป็นเรื่องพื้นฐานในอนาคตทั่วโลก ซึ่งมี Patrick MacLeamy จาก HOK บริษัทสถาปนิกชื่อดังในประเทศอังกฤษได้ให้ความเห็นประมาณนี้ :

1. ขั้นการออกแบบโครงการ (BIM- Building Information Management) ซึ่งสถาปนิกจะใช้ระบบนี้ในขั้นตอนการออกแบบอาคาร ซึ่งหากเเเปรียบเทียบจะทั้ง 3 ขั้นตอน  BIM จะมีมูลค่าเพียง 1 ส่วน หรือ 1 เท่าๆนั้้น
   
2. ขั้นตอนการบริหารการก่อสร้าง (BAM- Builing Assembly Management) เป็นการนำเอาระบบ BIM มาช่วยในงานขั้นตอนการก่อสร้าง ซึ่งจะมีมูลค่าเป็น 20 เท่า ของการออกแบบ เช่น การวางแผนงาน (Scheduling) ควบคุมต้นทุนโครงการ (Project Cost Control) การทำ precast concrete ,Prefabrication เป็นต้น ซึ่งสถาปนิกจะใช้ทั้ง 1 และ 2 ในระหว่างการทำงานออกแบบ
   
3. ขั้นตอนการบริหารการใช้อาคาร (BOOM- Building Operation Management)   หรือ สิ่งอำนวยความสะดวกองค์กร (FM- Facilities Management)นั้นเอง ซึ่งเป็นการนำเอาอาคารที่สร้างไปแล้วมาใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งจะมีมูลค่าเป็น 60 เท่าเลยทีเดียว
   

ซึ่งหากสังเกตุให้ดีว่า การที่ BIM เป็นที่นิยม และพูดถึงกันมากขึ้นตลอดเวลา 5-6 ปีที่ผ่านมา การสอนการใช้งานโปรแกรมแนว BIM มีแนวโน้มราคาถูกมากขึ้นเรื่อยๆ และค่าเขียนแบบด้วย BIM จากหน้าละ 6,000 บาทไล่ลงมาเหลือ 2,000 บาทต่อแผ่น นั้นอาจหมายความถึงแนวโน้มที่จะขยับตัวไป BAM แล้วก็ได้ ซึ่งน่าจะบอกได้ว่า ระบบ BIM ได้รับความนิยมแพร่หลายแล้วในบ้านเรา แต่ก็ยังมีโอกาสโตอีกมาก แล้วจะเคลื่อนตัวไปทำงานในส่วน BAM ได้มากขึ้น และขยายไปยัง BOOM หรือ FM ซึ่งเป็นการนำเอา BIM มาใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพได้มากยิ่งขึ้น

Courtesy ภาพ : https://www.archdaily.com/262008/the-future-of-the-building-industry-bim-bam-boom


  บทความถัดไป > 

การสิ้นสุดของกฎ Moore Law แต่เป็นการเริ่มต้นของยุค AI
ทฤษฎีที่บันลือโลกเขียนขึ้นเมื่อ 60 ปีที่แล้ว ซึ่งผลของการทำนายการเปลี่ยนแปลงโลกถูกต้องมาตลอด วันนี้อาจกลายเป็นยุคสุดท้าย แต่อาจเป็นพื้นฐานให้กับสิ่งประดิษฐ์สุดท้ายของมนุษย์ที่ทำขึ้น   คลิกที่นี้  ...

  < บทความก่อนหน้า 

BIM, OpenBIM และ IFC คำศัพท์ที่คนในวงการออกแบบก่อสร้างต้องรู้                                                                                                               

หลายท่านอาจเข้าใจคำว่า BIM (Building Information Modeling) แต่ก็คงมีหลายท่านแล้วคำว่า OpenBIM และ IFC มาจาก ... >>